ทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดของปีนี้

กลุ่มโอเปกพลัสลดปริมาณการผลิตลงช็อกตลาดการเงิน         

กลุ่มโอเปกพลัสประกาศลดปริมาณการผลิต 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 เมษายน) ด้วยความสมัครใจมีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงสิ้นปีนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด มีผลทำให้ราคาน้ำมันดิบในวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 เมษายน) เพิ่มขึ้นถึง 6% เป็นการปรับขึ้นรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้วที่มีสงครามรัสเซียและยูเครน ล่าสุดโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สิ่งที่ตามมาคืออัตราเงินเฟ้อจะกลับมาเร่งตัวสูงขึ้น ทั้งที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทั้ง CPI และ PPI เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว ทำให้ตลาดมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคม ดังนั้นราคาทองคำในช่วงกลางวันของวันจันทร์ถึงปรับตัวลงแรง

.

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะไปต่อไม่ได้แล้ว

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอตั้งแต่ต้นสัปดาห์ เริ่มสะท้อนให้เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะไปต่อไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะสูงขึ้นก็ตามเนื่องจากกลุ่มโอเปคพลัสลดปริมาณการผลิตลง ทั้งดัชนีภาคการผลิตเดือนมีนาคมที่ออกมาต่ำกว่าระดับ 50% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และต่ำที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตสหรัฐฯหดตัวลง ส่วนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ทำให้ล่าสุดตลาดว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคม และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 4-4.25% ซึ่งอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่ 4.75-5% สะท้อนให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะไม่เกิน 5% ในครึ่งปีหลังตลาดคาดว่าเฟดอาจต้องลดอัตราดอกเบี้ยราว 0.75%

.

ถึงแม้ว่า Dot Plot จะสะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่จะลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567-2568 เหลือ 4.3% และ 3.1% แต่ในอดีตที่ผ่านมาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดโดยส่วนใหญ่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า 5% จะยิ่งซ้ำเติมต่อภาคเศรษฐกิจ ทั้งที่ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดวิกฤตซับไพร์มในปี 2551 อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่ต่ำมาโดยตลอด ซึ่งในปี 2549 อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 5% ทำให้ในปี 2551 เศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง และเฟดต้องลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0% ในที่สุด

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด vs. เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

ตลาดแรงงานและภาคบริการของสหรัฐยังแข็งแกร่งหรือไม่

ตลาดยังจำเป็นที่จะต้องรอดูตัวเลขตลาดแรงงานและดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯเดือนมีนาคมที่จะประกาศในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ต่อไป เพื่อตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงหรือยังแข็งแกร่งอยู่ สำหรับภาคบริการของสหรัฐฯมีสัดส่วนสูงถึงเกือบ 80% ทำให้มีผลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก ส่วนตลาดแรงงานตึงตัว ทำให้การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นสูงเกินคาดติดต่อกันยาวนานถึง 11 เดือน การจ้างงานมีนาคมตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 236,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 3.6%

การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ

ราคาทองคำทางด้านปัจจัยทางเทคนิคกลับเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน

ราคาทองคำทางด้านปัจจัยทางเทคนิคกลับเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยม แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาราคาทองคำสามารถทะลุกรอบแนวต้านที่ 1,990 ดอลลาร์ ทำให้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อไป สำหรับเป้าหมายของราคาทองคำทางด้านปัจจัยเทคนิคจะอยู่ที่ 2,080 ดอลลาร์ ดังนั้นโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ได้ คำแนะนำการลงทุนสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเข้าซื้อที่ 1,990-2,000 ดอลลาร์ ส่วนท่านที่มีอยู่ในพอร์ตแนะนำกลยุทธ์ Let Profit Run ถือต่อไปได้

ดาวน์โหลดเอกสาร