เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด แต่ยังห่วงเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4.50-4.75% และคาดว่าจะขึ้นอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง

แถลงการณ์หลังผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยถึงมุมมองเชิงบวกของเฟดที่มีต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ โดยประธานเฟดระบุว่า อัตราเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงแล้วในระดับหนึ่ง แม้ยังคงยืนในจุดที่สูงอยู่ก็ตาม แต่ว่ามาตรวัดเงินเฟ้อต่าง ๆ ที่เฟดใช้พิจารณา ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในครั้งนี้ และจะปรับขึ้นต่อเนื่องไปอีกระยะ ก็เป็นไปเพื่อให้เฟดสามารถบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวที่ระดับ 2%

.

ทั้งนี้ เฟดไม่ได้แสดงท่าทีกังวลใด ๆ ต่อผลกระทบของการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่มีต่อตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของเฟดที่ต้องการให้ระบบเศรษฐกิจมีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ โดยเฟดยังคงมองในเชิงบวกต่อตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งตลอดช่วงที่ผ่านมา และอัตราว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง

.

นอกจากนี้ เฟดยืนยันจะเดินหน้าปรับลดปริมาณการถือครองพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อบ้านเป็นหลักประกัน (MBS) ตามแผนการปรับลดขนาดงบดุลของเฟดต่อไป เพื่อลดระดับเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจลงสู่เป้าหมาย 2% โดยประธานเฟดไม่ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องขึ้นในตลาด

.

อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดไม่ได้ปฏิเสธโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะจบลงที่ระดับ 5% ซึ่งหมายความว่า เฟดอาจตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกแค่ครั้งเดียวแทนที่จะเป็น 2-3 ครั้ง ก็ได้ เพราะเฟดจะใช้ข้อมูลต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้น และประธานเฟดได้พูดย้ำด้วยความมั่นใจว่า เฟดสามารถจะกดเงินเฟ้อลงแตะ 2% ได้ โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย โดยเขาคาดว่าการชะลอตัวลงจะเป็นไปในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไป พร้อมเผยความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า ยังไม่เห็นโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงในปีนี้

.

นักลงทุนในตลาดจึงมั่นใจว่า เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้อย่างแน่นอน แม้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อใด แต่ก็ประเมินได้ว่าเงินดอลลาร์จะอยู่ในทิศทางอ่อนค่าลงตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นผลบวกต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำในภาพรวม แต่จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า

ดาวน์โหลดเอกสาร