นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย
Gold Bullish
- ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร
Gold Bearish
- การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. แต่ใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลบวกต่อทองคำ
การแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง หัวข้อ “Structural Shifts in the Global Economy” โดยนายพาวเวลยังคงส่งสัญญาณในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากแม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงจากระดับสูงสุด แต่ก็ยังอยู่สูงเกินไป และเฟดเตรียมการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากมีความเหมาะสม และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่งผลให้ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงเข้าใกล้ 1,900 ดอลลาร์ ทั้งนี้การแถลงของประธานเฟดได้สอดคล้องมุมมองเดิมที่เฟดยังคงเน้นย้ำจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด ขณะที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมที่เหลือในปีนี้ แต่ภายหลังการประชุมประจำปีของเฟดครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. โดยเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ระดับ 5.25%-5.50% ในการประชุมเดือนก.ย. แต่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% มาสู่ระดับ 5.50%-5.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. และเป็นการขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการอัตราดอกเบี้ยหรือ Dot Plot ล่าสุด โดยประมาณการอัตราดอกเบี้ยหรือ Dot Plot สิ้นปีนี้เป็น 5.6% สะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก สู่ระดับ 5.50-5.75%
.
การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ก็ยังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนต่อความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะอยู่ระดับสูงอีกนานนั้น ได้ส่งผลต่อดอกเบี้ยเงินกู้ที่มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลล่าสุดจาก Mortgage News Daily ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้พุ่งขึ้นใกล้ 7.5% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี ซึ่งได้กระทบต่อคนซื้อบ้านในสหรัฐเป็นอย่างมาก ณ ขณะนี้ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการบ้านลดลง โดยยอดขายบ้านได้ลดลงอย่างมากจากปีที่แล้ว และอาจส่งผลต่อความสามารถในการจ่าย อย่างไรก็ตาม การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้สิ้นสุด โดยส่วนหนึ่งยังมีมุมมองว่าดอกเบี้ยอาจจะลดลงในสิ้นปี 2566 ก็อาจจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงได้ ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งมุมมองการคาดถึงแนวโน้มเฟดใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ยนั้น ก็ส่งผลให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ จากผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจ และคาดว่าจะยังคงระดับการลงทุนหรือเพิ่มการลงทุนทองคำต่อไปในอีก 12 เดือนข้างหน้านี้ โดยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ไม่พบว่ามีนักลงทุนกลุ่มใดที่วางแผนจะปรับลดการลงทุนในทองคำในช่วงเวลา 12 เดือนข้างหน้า อีกทั้งยังพบการคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำ และคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น ขณะที่บางรายยังเชื่อมั่นว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยผลสำรวจนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-22 ส.ค.ที่ผ่านมานี้ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำในปี 2567
คาดว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะเริ่มเคลื่อนไหว Sideways โดยสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ และ 1,885 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,930 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,936 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 31,600 บาท และ 31,500 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 31,900 บาท และ 32,100 บาท