เฟดไม่ฟันธงยุติขึ้นดอกเบี้ย แต่ตลาดคาดดอกเบี้ยขาขึ้นจบแล้ว

สิ่งที่ควรรู้จากการประชุมเฟดครั้งนี้

การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. เป็นการประชุมครั้งที่ 7  ของปีนี้  เฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 เป็นไปตามที่ตลาดคาด หลังจากได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้ง นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565

.
แถลงการณ์ของคณะกรรมการเฟด ส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดีเฟดยอมรับว่าภาวะการเงินที่มีความตึงตัวมากขึ้นนั้นได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

.

ประธานเฟดแถลงว่า เฟดจะใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ย แม้ยังไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้สูงเพียงพอที่จะทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายหรือไม่ เฟดยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. รวมทั้งยังไม่ได้หารือเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย

.

ในมุมมองของตลาด คาดการณ์ว่าการประชุมเฟดในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% และคาดในปีหน้าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ขณะที่มุมมองของเฟดเองปีหน้าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง

.

จากสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาคืออัตราเงินเฟ้อในเดือนต.ค.และช่วงที่เหลือของปีนี้สูงขึ้น ทำให้เฟดอาจตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงยาวนานมากขึ้น ซึ่งเราจะเห็นภาพที่ชัดเจนจากการเปิดเผยประมาณการดอกเบี้ยหรือ Dot Plot ในเดือนธ.ค.

.

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways up เนื่องจากตลาดจะตอบรับทางบวกจากการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟดจบแล้ว สังเกตจาก Bond Yields ที่ปรับลงแรง ระยะสั้นแนวต้าน 1,990 และ 2,000 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับ 1,970 และ 1,963 ดอลลาร์

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2565-2566

ที่มา : ธนาคารกลางสหรัฐ กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ดาวน์โหลดเอกสาร