เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัว ส่งผลต่ออุปสงค์ทองคำ
Gold Bullish
- ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้แก่ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และ จีน
- หนี้สหรัฐฯ ชนเพดานที่ระดับ 31.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
Gold Bearish
- การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น
- การปรับเพิ่มมุมมองคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- ดอลลาร์แข็งค่า จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอย่างแข็งแกร่ง
เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ส่งผลต่อความต้องการทองคำมากขึ้น
จีนได้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าข้อมูลภาคการผลิตและภาคบริการของจีนออกมาดี และเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการทองคำจากจีนปีนี้จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการทองคำของจีนมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน
กราฟแสดงความสัมพันธ์ของการขยายตัวของ GDP รายไตรมาสของจีนกับการบริโภคทองคำ
ที่มา Goldhub
โดยจะเห็นได้จากในปี 2565 ที่ผ่านมาความต้องการทองคำในประเทศของจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อการใช้มาตรการ Zero-COVID ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นและความต้องการทองคำลดลง โดยในช่วงครึ่งปีแรก การปิดเมืองได้จำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและส่งผลต่ออุปสงค์ทองคำในท้องถิ่น ขณะที่ความต้องการขายส่งทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มกลับมีเสถียรภาพในการควบคุม อย่างไรก็ตามการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ก็กลับมาส่งผลต่ออุปสงค์ค้าส่งที่ลดลงอีกครั้ง ขณะที่การถือครอง ETF ทองคำของจีนลดลง 24 ตันในปี 2565 ซึ่งถือว่าเป็นการขาดทุนประจำปีที่ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามในด้านธนาคารกลางของจีน (PBOC) ได้มีการเพิ่มสำรองทองคำติดต่อกัน 2 เดือนสุดท้ายของปี 2565 รวมกว่า 62 ตัน
.
ขณะที่ในปี 2564 การบริโภคทองคำของจีนมีความแข็งแกร่ง โดยความต้องการเครื่องประดับทองคำอยู่ที่ 675 ตันเพิ่มขึ้น 63% จากปีก่อน และสูงกว่าปี 2562 ซึ่งมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การเติบโตของ GDP 8.1% yoy ได้เป็นกุญแจสำคัญในการสนับสนุนการบริโภคทองคำของจีน และการลดลงของราคาทองคำจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2563 ได้ส่งผลต่อความต้องการเครื่องประดับทองคำมากขึ้น ในขณะที่ปัจจัยต่าง ๆ เช่น รายได้ครัวเรือนและอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคอาจส่งผลต่อการลงทุนทองคำแท่งและเหรียญ นอกจากนี้การถือครอง ETF ทองคำของจีนตลอดทั้งปีมีเงินไหลเข้าสุทธิ 15 ตัน
.
ทั้งนี้แนวโน้มอุปสงค์ทองคำของจีนในปี 2566 จึงเป็นสัญญาณที่ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการทองคำ จากการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งของจีน โดยการคาดการณ์ของ Bloomberg คาดว่าการเติบโตของ GDP ของจีนในปี 2566 มีแนวโน้มที่จะสูงถึง 4.8% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดจากปี 2565 และน่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักต่อการบริโภคทองคำในท้องถิ่นของจีน
สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีโอกาสที่ปรับตัวขึ้นไปยังบริเวณ 1,868-1,870 ดอลลาร์ แนะนำเข้าซื้อทองคำ บริเวณราคา 1,840 ดอลลาร์